วิสัยทัศน์ในการเตรียมตัวเดินขบวนเพื่อปลดปล่อยมัสยิดอัลอักซอ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 ภายหลังการละหมาดรุ่งอรุณ

ผมลังเลที่จะเขียนนิมิตนี้ เพราะผมรู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับกองทัพ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าเป้าหมายในการปลดปล่อยอัลอักซอไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ แต่ขอถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ เป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้สถานการณ์ของเราจะเปลี่ยนแปลงไปจากสุดขั้วหนึ่งไปสู่อีกสุดขั้วหนึ่ง และนิมิตนี้บรรจุพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ดังที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ผมสนใจที่จะตีความนิมิตใดๆ ที่มีพระนามของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพหรือศาสดา และผมหวังว่านิมิตนี้จะไม่ถูกตีความว่าผมกำลังหลอกกองทัพให้กลับไปหามัน เพราะผมไม่ได้ต้องการทำเช่นนั้นเลย

วิสัยทัศน์

ผมอยู่ในจัตุรัสขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลเรือนชาวอียิปต์ในวันที่เรียกว่าวันเดินขบวนเพื่อปลดปล่อยอัลอักซอและเพื่อสงคราม ผมยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเหล่านี้ อยู่ด้านหลังเล็กน้อยทางด้านซ้าย สวมชุดพลเรือนเหมือนพวกเขา ผมเดินขบวนและพยายามจัดแถวให้พวกเขา แต่พวกเขาไม่สนใจหรือมองมาที่ผมเลย มีทั้งสถานีโทรทัศน์และสื่อบันทึกภาพฝูงชนจำนวนมากเหล่านี้ ผมจึงเริ่มเรียกร้องให้พลเรือนทุกคนว่าใครก็ตามที่พกอาวุธควรอยู่แถวหน้า แต่ผมไม่เห็นพลเรือนคนใดถืออาวุธให้เดินขบวนไปข้างหน้าเลย
ทันใดนั้น กองทัพอียิปต์กลุ่มหนึ่งก็เข้ามาในจัตุรัสจากด้านซ้าย ต่อหน้าฝูงชนเหล่านั้น อาวุธครบมือและสวมเครื่องแบบคอมมานโดอียิปต์ พร้อมกับก้าวเดินแบบทหาร ผมส่งสัญญาณให้พวกเขาเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าไปยังอัลอักซอ ขณะเดียวกัน ผมก็เริ่มสวดภาวนาว่า “อัลลอฮ์ อัลลอฮ์ อัลลอฮ์” เพื่อให้พวกเขาท่องซ้ำไปซ้ำมาทุกครั้งที่ก้าวเท้าไปข้างหน้า พวกเขามองมาที่ผมและสวดภาวนาว่า “อัลลอฮ์ อัลลอฮ์ อัลลอฮ์” ทุกครั้งที่ก้าวเดิน จำนวนกองกำลังคอมมานโดที่เข้ามาในจัตุรัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จัตุรัสเต็มไปด้วยกองกำลังทหารทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นพลเรือนจำนวนมาก

 

 

 

thTH